closelawyer@gmail.com       080-919-3691

อายุความหนี้บัตรเครดิต
 
         หนี้บัตรเครดิต คือ หนี้ที่เกิดจากที่ผู้ใช้บัตรเครดิตไม่ได้ชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดไว้ เมื่อผู้ใช้บัตรเครดิตไม่สามารถใช้หนี้ได้ทันเวลา ผู้ใช้บัตรเครดิตจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับบริษัทสินเชื่อ หรือบริษัทเครดิต จนกว่าจะสามารถจะจ่ายเงินที่ค้างไว้จนหมด นอกจากดอกเบี้ยแล้ว บริษัทสินเชื่อยังอาจจะมีค่าปรับอื่น ๆ ในการจ่ายล่าช้า ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้ หากผู้ใช้บัตรเครดิตยังละเลย หรือเพิกเฉยต่อการชำระหนี้ บริษัทสินเชื่อสามารถขอเพิ่มดอกเบี้ยได้ด้วย หนี้บัตรเครดิตสามารถครอบคลุมโดยเครดิตด่วน
 
         การที่เราติดหนี้ บัตรเครดิต เริ่มแรกทางธนาคารจะเปลี่ยนสถานะของท่านจากเดิมเป็นลูกหนี้ชั้นดีมาเป็นลูกหนี้ค้างชำระหรือเรียกกันจนติดปากว่า แบล็กลิสต์ จากนั้นทางธนาคารก็จะรายงานข้อมูลการค้างชำระของท่านไปยังบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร ที่ส่งผลเสียเพิ่มเติมที่จะทำให้ท่านเสียประวัติด้านการเงินจนทำให้ท่านอาจจะขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ยากขึ้นมาก ยิ่งท่านค้างจ่ายไว้นานจนในที่สุด ธนาคารก็จะทำการฟ้องร้องและนำเดินคดีได้ในที่สุด โดยหากท่านถูกธนาคารเจ้าหนี้ฟ้องร้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 สิทธิเรียกร้องดังต่อไปนี้ ให้มีกำหนดอายุความสองปี
         (1) ผู้ประกอบการค้าหรืออุตสาหกรรม ผู้ประกอบหัตถกรรม ผู้ประกอบศิลปอุตสาหกรรมหรือช่างฝีมือ เรียกเอาค่าของที่ได้ส่งมอบ ค่าการงานที่ได้ทำ หรือค่าดูแลกิจการของผู้อื่น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป เว้นแต่เป็นการที่ได้ทำเพื่อกิจการของฝ่ายลูกหนี้นั้นเอง
         (7) บุคคลซึ่งมิได้เข้าอยู่ในประเภทที่ระบุไว้ใน (1) แต่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำงานการต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป
(😎 ลูกจ้างซึ่งรับใช้การงานส่วนบุคคล เรียกเอาค่าจ้างหรือสินจ้างอย่างอื่นเพื่อการงานที่ทำ รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป หรือนายจ้างเรียกเอาคืนซึ่งเงินเช่นว่านั้นที่ตนได้จ่ายล่วงหน้าไป
         ฎีกาที่ 1609/2540 การให้บริการประเภทบัตรเครดิตเป็นวัตถุประสงค์ของธนาคารโจทก์ การที่โจทก์ให้บริการการใช้บัตรเครดิตแก่สมาชิกโดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บัตรดังกล่าวจากสมาชิกโจทก์จึงเป็นผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำการงานต่าง ๆให้แก่สมาชิก และการที่โจทก์ได้ชำระเงินให้แก่เจ้าหนี้ของสมาชิกแทนสมาชิกไปก่อนแล้วจึงเรียกเก็บจากสมาชิกภายหลังเป็นการเรียกเอาค่าที่ได้ออกเงินทดรองไปก่อน กรณีจึงถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาค่าที่ได้ออกเงินทดรองไปก่อน สิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวจึงมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/34(7) ตามใบแจ้งยอดหนี้เอกสารท้ายฟ้อง กำหนดให้จำเลยชำระหนี้ที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2534แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2538 จึงพ้นกำหนด 2 ปีสิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงขาดอายุความ
 
        ฎีกาที่ 1884/2540 โจทก์ประกอบธุรกิจมีวัตถุประสงค์ให้บริการแก่ลูกค้าซึ่งเป็นสมาชิกในรูปของบัตรเครดิตโดยโจทก์ออกบัตรเครดิตให้แก่สมาชิกแล้ว สมาชิกสามารถนำไปถอนเงินสดล่วงหน้าและสามารถนำบัตรเครดิตไปซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ แทนการชำระด้วยเงินสดตามร้านค้าหรือสถานบริการที่เป็นสมาชิกของโจทก์ทั้งในและต่างประเทศที่มีข้อตกลงเป็นร้านค้าสมาชิกรับบัตรกับโจทก์โดยโจทก์เป็นผู้ชำระเงินทดรองแทนสมาชิกไปก่อนแล้วจึงเรียกเก็บเงินจากสมาชิกในภายหลัง ซึ่งสมาชิกจะต้องเสียค่าบริการให้แก่โจทก์ และโจทก์ได้เรียกเก็บค่าบริการพร้อมทั้งค่าธรรมเนียมด้วย เช่นนี้ โจทก์จึงเป็นผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำการงานต่าง ๆ ให้แก่สมาชิกการที่โจทก์ชำระเงินแก่เจ้าหนี้ของสมาชิกแทนสมาชิกไปก่อนแล้วเรียกเก็บเงินจากสมาชิกภายหลัง เป็นการเรียกเอาค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไป ซึ่งตามข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลย โจทก์จะแจ้งยอดบัญชีส่งให้จำเลยทราบในแต่ละงวดที่เรียกเก็บ และให้ถือว่าหนี้ถึงกำหนดตามที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ กรณีเช่นนี้เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ตามกำหนดในงวดใด โจทก์ก็อาจบังคับสิทธิเรียกร้องสำหรับงวดนั้นได้นับแต่วันที่จำเลยผิดนัด จึงต้องเริ่มนับอายุความสำหรับหนี้แต่ละงวดตั้งแต่วันที่จำเลยผิดนัด แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าก่อนโจทก์บอกเลิกสัญญาจำเลยผิดนัดงวดใดบ้าง จึงต้องถือว่าวันที่โจทก์บอกเลิกสัญญาการใช้บัตรเครดิตเป็นวันที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องสำหรับหนี้ทั้งหมดได้ และการที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำการงานต่าง ๆได้เรียกเอาค่าที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไป มีอายุความ 2 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(7) เมื่อโจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องคดีนี้ได้นับแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน2534 แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2538 เกินกำหนดระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงขาดอายุความ
 
        ฎีกาที่ 2456/2551 โจทก์เป็นธนาคารพาณิชย์ จำเลยเป็นลูกค้าของโจทก์ประเภทบัตรเครดิตยอมผูกพันตามเงื่อนไขของผู้ถือบัตร การที่จำเลยนำบัตรเครดิตไปถอนเงินสดล่วงหน้าจากเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติของสถาบันการเงินอื่น โจทก์จำเป็นต้องชำระเงินแทนจำเลยไปก่อนแล้วมาเรียกเก็บเงินจากจำเลยในภายหลัง จึงเป็นกิจการงานบริการอำนวยความสะดวกแก่สมาชิก โดยโจทก์เรียกค่าธรรมเนียมจากสมาชิก เป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำการงานต่างๆ เรียกเอาเงินที่ได้ออกทดรองไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (7) มิใช่กรณีของลักษณะสัญญาพิเศษอันไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติไว้โดยเฉพาะในเรื่องอายุความจึงมีอายุความ 2 ปี
 
         จำเลยใช้บัตรเครดิตครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2535 โจทก์แจ้งให้จำเลยชำระหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตภายในวันที่ 2 มกราคม 2536 แต่จำเลยไม่ชำระตามกำหนด ถือว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด โจทก์ย่อมบังคับสิทธิเรียกร้องของตนได้ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2536 เป็นต้นไป ครบกำหนดอายุความในวันที่ 3 มกราคม 2536 การที่โจทก์นำเงินจำนวน 4,326.42 บาท ของจำเลยมาชำระหนี้บางส่วนเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2543 เป็นการนำเงินฝากจากบัญชีอื่นตามที่โจทก์และจำเลยได้เคยตกลงกันไว้มาหักชำระหนี้โดยที่จำเลยไม่ได้รู้เห็นด้วยจึงเป็นการกระทำของโจทก์เพียงฝ่ายเดียว ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้ของจำเลย อีกทั้งเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลังจากหนี้ขาดอายุความแล้ว การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2547 พ้นกำหนดเวลา 2 ปี จึงขาดอายุความ
 
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954
หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @closelawyercmi
หรือ คลิก https://lin.ee/Zu2JmNU
อายุความหนี้บัตรเครดิต
Scroll to top
error: Content is protected !!