closelawyer@gmail.com       080-919-3691

ปลอมแปลงเอกสาร เพื่อนำไปลักทรัพย์ถือเป็นการกระทำโดยทุจริตเพื่อให้ได้ประโยชน์หรือทรัพย์สินไปจากเจ้าของทรัพย์ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุก

         การลักทรัพย์นั้นไม่จำกัดวิธีการ โดยถือเจตนาภายในเป็นสำคัญซึ่งนำสืบประกอบกับพฤติการณ์จริงที่เกิดขึ้น ให้ศาลเชื่อว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์จริง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 แต่หากมีพฤติการณ์ใดที่พิเศษกว่าการลักทรัพย์ปกติ กฎหมายเรียกว่าบทฉกรรณ์ทำให้ต้องได้รับโทษเพิ่มขึ้นจากการกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ทำลายสิ่งกีดขวาง หรือเอกสารราชการเป็นต้น ยกตัวอย่างคือ นาย ก ได้ ปลอมแปลงเอกสาร หนังสือมอบอำนาจโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ของนาย ข เพื่อนำที่ดินดังกล่าวโอนมาเป็นของตนเอง โดยไม่ได้เกิดความยินยอมจากนาย ข เป็นการกระทำทุจริตโดยเจตนาลักทรัพย์ของนาย ข มาเป็นของตนเอง ทำให้เกิดความเสียหายแก่ นาย ก จึงมีความผิดฐานลักทรัพย์อันถือเป็นเอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(5)
         อ้างถึงคำพิพากษาฎีกาที่ 5454/2553 คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวหาจำเลยว่า จำเลย ปลอมเอกสาร และนำเอกสารปลอมไปลักทรัพย์ของนายจ้าง โดยเหตุเกิดเมื่อระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม 2548 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2548 เวลากลางคืนหลังเที่ยงอันเป็นการบรรยายฟ้องที่ไม่ยืนยันการกระทำความผิดของจำเลยว่าเกิดขึ้นในเวลากลางวันหรือเกิดในเวลากลางคืน อันเป็นเหตุฉกรรจ์ที่ทำให้จำเลยต้องได้รับโทษหนักขึ้น เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดตามฟ้อง ข้อเท็จจริงก็คงรับฟังได้เพียงว่าจำเลยลักทรัพย์นายจ้างตามฟ้องเท่านั้น แต่ไม่อาจจะรับฟังได้แน่ชัดว่าจำเลยกระทำความผิดในเวลากลางวันหรือกลางคืน ถือว่าจำเลยไม่ได้ให้การรับสารภาพในส่วนนี้โดยชัดแจ้ง จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำพยานหลักฐานเข้าสืบพิสูจน์ความผิดของจำเลยดังกล่าว เมื่อปรากฏว่าโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยาน ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้ คงฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางวันเท่านั้น ที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตาม ป.อ. มาตรา 335 (1) ด้วยจึงไม่ชอบ ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้
 
         ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
 
ปรึกษากฎหมายโทร📞 080-9193691 ,☎️ 02-0749954
หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @closelawyercmi
หรือ คลิก https://lin.ee/Zu2JmNU
ปลอมแปลงเอกสาร เพื่อนำไปลักทรัพย์ถือเป็นการกระทำโดยทุจริตเพื่อให้ได้ประโยชน์หรือทรัพย์สินไปจากเจ้าของทรัพย์ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุก
Scroll to top
error: Content is protected !!