ทะเลาะกับเจ้าของที่ดิน หากเพียงแต่โต้เถียงสิทธิกัน ยังไม่ถือว่าเป็นการครอบครองโดยไม่สงบ ยังคงอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้
หลักเกณฑ์ในการครอบครองปรปักษ์ ซึ่งบัญญัติอยู่ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 “บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์”
โดยมีองค์ประกอบสำคัญอยู่ที่ผู้ที่จะได้กรรมสิทธิ์มาโดยการครอบครองปรปักษ์นั้น จะต้องครอบครองอสังหาริมทรัพย์ หรือสังหาริมทรัพย์ ไว้โดยความสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์นั้น ซึ่งคำว่า “โดยความสงบ” หมายถึง เป็นการครอบครองทรัพย์ของผู้อื่นโดยไม่มีการโต้แย้งการครอบครองของเจ้าของกรรมสิทธิ์ เช่น การครอบครองที่ดินโดยไม่มีใครมาฟ้องร้องดำเนินคดีทางศาล หรือแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ เป็นต้น ซึ่งหากเพียงแต่เป็นการโต้เถียงกัน หรือทะเลาะกัน หรือด่าทอด้วยคำหยาบคายว่าใครมีสิทธิในที่ดินดีกว่า ยังคงถือว่าผู้ที่ครอบครองทรัพย์นั้นยังคงครอบครองอสังหาริมทรัพย์ หรือสังหาริมทรัพย์ ไว้โดยความสงบอยู่ตลอดมา หากได้ครอบครองมาโดยตลอดจนครบสำหรับอสังหาริมทรัพย์ติดต่อกัน 10 ปี หรืออสังหาริมทรัพย์ติดต่อกัน 5 ปี บุคคลผู้ที่ครอบครองทรัพย์นั้นย่อมเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ดังกล่าว
คำพิพากษาฎีกาที่ 3864/2554
การครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 นั้น จะต้องหมายความว่า ครอบครองอยู่ได้โดยไม่ถูกกำจัดให้ออกไป การที่เพียงแต่โต้เถียงสิทธิกันนั้น ยังไม่ถือว่าเป็นการครอบครองโดยไม่สงบได้ การที่ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้องเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2541 จึงเป็นเพียงโต้เถียงสิทธิกันเท่านั้น อีกทั้งเมื่อศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีในคดีเดิมแล้วก็ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้ฟ้องขับไล่ผู้ร้องแต่อย่างใด คงปล่อยให้ผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทต่อมา สิทธิครอบครองของผู้ร้องหาได้ถูกกำจัดให้ออกไปไม่ จึงมิใช่เป็นการรบกวนสิทธิครอบครองของผู้ร้องอันจะถือว่าผู้ร้องไม่ได้ครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบแล้วได้ การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแสดงสิทธิ์ในที่ดินพิพาทต่อศาลชั้นต้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2541 และศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเนื่องจากผู้ร้องไม่ชำระค่าขึ้นศาลภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้น ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้ร้องไม่ประสงค์จะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการร้องขอครอบครอบปรปักษ์ต่อไป ทั้งไม่มีผลต่อการนับระยะเวลาครอบครองที่ดินพิพาทของผู้ร้องด้วย ดังนั้น นับแต่ผู้คัดค้านได้สิทธิในที่ดินพิพาทคือวันที่ 13 สิงหาคม 2533 จนถึงวันที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทต่อศาลชั้นต้นวันที่ 25 มิถุนายน 2544 เป็นเวลาเกิน 10 ปี ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954
หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @closelawyercmi
หรือ คลิก https://lin.ee/Zu2JmNU
www.closelawyer.co.th
ทะเลาะกับเจ้าของที่ดิน หากเพียงแต่โต้เถียงสิทธิกัน ยังไม่ถือว่าเป็นการครอบครองโดยไม่สงบ ยังคงอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้