closelawyer@gmail.com       080-919-3691

ภรรยามีชู้ แบบลับๆ แม้ไม่มีใครรู้ สามีก็ฟ้องชู้ได้
 
        ตามหลักกฎหมายแล้ว กฎหมายจะคุ้มครองสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันเท่านั้น สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรค 2
 
        มีตัวอย่างคำพิพากษาฎีกาที่สามีใช้สิทธิ์ฟ้องเรียกค่าทดแทนชายอื่น ซึ่งมาล่วงเกินภรรยาของตนในทำนองชู้สาว ซึ่งคำพิพากษาฎีกาได้อธิบายไว้ชัดเจนว่า “การนอนกอดกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าได้ล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาว”
 
        ดังนั้น ฝ่ายสามีที่จะฟ้องชู้หรือผู้อื่นที่เข้ามาล่วงเกินภริยาของตนนั้น จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า มีการล่วงเกินภรรยาของตน หรือ มีการร่วมประเวณีกัน ไม่ว่าภรรยาจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เช่น ภาพถ่าย ข้อมูลการเปิดโรงแรมอยู่ด้วยกัน ภาพถ่ายที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันในที่ลับหูลับตา ซึ่งผิดปกติวิสัยของเพื่อนร่วมงานหรือคนรู้จักกันที่จะกระทำเช่นนั้น และไม่เหมาะสมที่ผู้ชายกับผู้หญิงจะอยู่ด้วยกันในสถานที่ดังกล่าว โดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่จำเป็นจะต้องหาพยานหลักฐานถึงขนาดที่แสดงว่า ทั้งสองคนแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีสัมพันธ์กันฉันชู้สาวก็ได้ หรือมีเพียงข้อมูลการเปิดโรงแรมอยู่ด้วยกันสองต่อสอง หรือเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แม้แอบได้เสียกันแบบลับๆ ไม่มีใครรู้ ก็สามารถฟ้องได้แล้ว
 
        คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2522
        คำบรรยายฟ้องของโจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งการกระทำของจำเลยเฉพาะการนอนกอดกับภริยาโจทก์ แต่ที่ว่าจำเลยยังลักลอบเล่นชู้กับภริยาโจทก์เรื่อยมา จนในที่สุดได้พาภริยาโจทก์ไปอยู่กับจำเลยนั้น ฟ้องโจทก์ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดพอที่จะถือเป็นข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา จึงต้องถือว่าโจทก์มุ่งประสงค์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยสำหรับการที่จำเลยไปนอนกอดกันกับภริยาโจทก์เป็นหลัก
 
 
        การนอนกอดกันกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาของผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าได้ล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาวทั้งสิ้น โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523วรรคสอง (ที่ได้ตรวจชำระใหม่)(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1113/2514 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)
 
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3483/2528
การที่จำเลยพา บ.ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นภริยาโจทก์ไปร่วมประเวณี แม้บ.จะยินยอมสมัครใจร่วมประเวณี กับจำเลยก็ถือว่าจำเลยกระทำล่วงเกิน ภริยาโจทก์ไปในทำนอง ชู้สาวจำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนให้โจทก์ และการที่จำเลยพาภริยาโจทก์ไปร่วมประเวณีดังกล่าวย่อมทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีได้รับความเสื่อมเสียทั้งด้านจิตใจเกียรติยศและชื่อเสียง ซึ่งไม่อาจคิดเป็นราคาเงินได้การกำหนดค่าทดแทนให้เพียงใดย่อมแล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดี
 
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6804/2558
ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุภริยามีชู้ สามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากชู้ บทบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้ชายชู้หรือชายที่มาล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวจะต้องทราบว่าหญิงนั้นเป็นหญิงมีสามีแล้ว แต่ยังจงใจละเมิดสิทธิสามี จึงต้องรับผิดใช้ค่าทดแทน เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ทราบแล้วว่า จำเลยที่ 1 เป็นภริยาของโจทก์แต่ยังเป็นชู้และร่วมประเวณีกับจำเลยที่ 1 เป็นอาจิณ โจทก์ซึ่งเป็นสามีย่อมมีสิทธิฟ้องให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์ได้
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1529 สิทธิฟ้องร้องโดยอาศัยเหตุในมาตรา 1516 (1) (2) (3) หรือ (6) หรือมาตรา 1523 ย่อมระงับไปเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่วันผู้กล่าวอ้างรู้หรือควรรู้ความจริงซึ่งตนอาจยกขึ้นกล่าวอ้าง หมายถึง กรณีที่เหตุที่กล่าวอ้างนั้นมิได้เกิดเหตุนั้นอีก สิทธิฟ้องร้องจึงระงับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่วันผู้กล่าวอ้างรู้หรือควรรู้ความจริงซึ่งตนอาจยกขึ้นกล่าวอ้าง แต่จำเลยที่ 2 ยังคงประพฤติเหตุดังกล่าวภายหลังวันที่จำเลยที่ 2 อ้างว่าโจทก์รู้หรือควรรู้ความจริงซึ่งตนอาจยกขึ้นกล่าวอ้างได้ อันเป็นการกระทำเหตุดังกล่าวต่อเนื่อง สิทธิฟ้องร้องของโจทก์จึงยังไม่ระงับไป คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
 
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954
หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @closelawyercmi
หรือ คลิก https://lin.ee/Zu2JmNU
ภรรยามีชู้ แบบลับๆ แม้ไม่มีใครรู้ สามีก็ฟ้องชู้ได้
Scroll to top
error: Content is protected !!