closelawyer@gmail.com       080-919-3691

           ใช้ลวดขึงแล้วปล่อยกระไฟทำเป็นแนวรั้ว เพื่อป้องกันคนมาลักขโมยใบกระท่อม หากมีคนร้ายถูกกระแส ไฟช็อตจนถึงแก่ความตาย เจ้าของบ้านมีความผิดข้อหาอะไร
 
 
        ทรัพย์ที่เจ้าของบ้านมีสิทธิกระทำการป้องกันเป็นเพียงต้นพืชกระท่อม ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ไม่ใช่ทรัพย์ที่จําเป็นจะต้องดูแลป้องกันถึงขนาดสร้างแนวรั้วไฟฟ้ามีแรงดันสูงขนาด 220 โวลต์ เช่นนี้ การกระทำดังกล่าวจึงเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจําเป็น หรือเกินกว่ากรณีแห่งการจําต้องกระทำเพื่อป้องกัน
 

        แม้ว่าการปล่อย กระแสไฟฟ้า เข้าสู่เส้นลวดของกลางขนาดแรงดัน 220 โวลต์ จะทำให้แรงดัน กระแสไฟฟ้า ในเส้นลวดของกลางลดลงเหลือแรงดันประมาณ 110 ถึง 150 โวลต์ หากคนไปสัมผัสเส้นลวดของกลางจะถูกกระแสไฟฟ้าช็อตแต่ไม่ถึงแก่ความตายในทันที ต้องใช้เวลานานประมาณ 10 ถึง 20 นาที จึงจะถึงแก่ความตาย ไฟช็อตจนถึงแก่ความตาย
 
 
        และแม้ว่าการกระทำของคนร้ายถือว่าเป็นการประทุษร้ายอันเป็นละเมิดต่อกฎหมายและต่อทรัพย์สินของเจ้าของบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านมีสิทธิที่จะป้องกันทรัพย์สินของตนได้ก็ตาม แต่พฤติการณ์ที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าขนาดแรงดัน สูงถึง 220 โวลต์ ไปตามเส้นลวดของกลางที่ขึงเป็นแนวรั้วโดยไม่มีฉนวนหุ้มนั้น แม้โดยสภาพจะไม่ทำให้ผู้สัมผัสเส้นลวดที่มี กระแสไฟฟ้า อยู่ถึงแก่ความตายในทันที แต่ก็สามารถทำให้ได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กายหรือสาหัสได้ และหากถูกกระแสไฟฟ้าช็อตเป็นเวลานานย่อมเป็นอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้
 
 
        การกระทำของเจ้าของบ้านจึงเป็นเพียงมีเจตนาทำร้ายคนร้าย ไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่การกระทำนั้นเป็นเหตุทำให้คนร้ายถึงแก่ความตาย และเป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจําเป็น หรือเกินกว่ากรณีแห่งการจําต้องกระทำเพื่อป้องกัน จึงมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคแรก ประกอบมาตรา 69 ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น เพียงใดก็ได้
 
 
        คำพิพากษาฎีกาที่ 76/2563
        จําเลยขึงแนวรั้วไฟฟ้าห่างจากต้นพืชกระท่อม ประมาณ 5 เมตร ก่อนจะถึงแนวรั้วไฟฟ้าได้วางตะปูตอกไม้หงายไว้เพื่อป้องกันคนเข้ามาลักทรัพย์ในบริเวณอาณาเขตบ้านของจําเลย แสดงให้เห็นได้ว่าจําเลยมีเจตนาให้กระแสไฟฟ้าทำร้ายร่างกายคนที่มาสัมผัสแนวรั้วไฟฟ้าดังกล่าว แม้ว่าการปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าสู่เส้นลวดของกลางขนาดแรงดัน 220 โวลต์ จะทำให้แรงดันกระแสไฟฟ้าในเส้นลวดของกลางลดลงเหลือแรงดันประมาณ 110 ถึง 150 โวลต์ หากคนไปสัมผัสเส้นลวดของกลางจะถูกกระแสไฟฟ้าช็อตแต่ไม่ถึงแก่ความตายในทันที ต้องใช้เวลานานประมาณ 10 ถึง 20 นาที จึงจะถึงแก่ความตาย แต่เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีฝนตกลงมาหนักมากทำให้พื้นดินบริเวณที่เกิดเหตุเปียกชื้นชุ่มน้ำ จึงเป็นตัวนํากระแสไฟฟ้าผ่านลงดินได้เป็นอย่างดี เป็นเหตุให้ผู้ตายทั้งสามซึ่งลักลอบเข้าไปลักใบต้นพืชกระท่อมที่ปลูกไว้หลังบ้านของจําเลย สัมผัสแนวรั้วที่จําเลยขึงกั้นไว้ถูกกระแส ไฟช็อตถึงแก่ความตาย การกระทำของจําเลยจึงเป็นเพียงมีเจตนาทำร้ายผู้ตายทั้งสาม มิได้มีเจตนาฆ่า แต่การกระทำนั้นเป็นเหตุทำให้ผู้ตายทั้งสามถึงแก่ความตาย
 
 
        จําเลยขึงเส้นลวดของกลางเป็นแนวรั้วล้อมบริเวณต้นพืชกระท่อมแล้วปล่อยกระแส ไฟฟ้าขนาดแรงดัน 220 โวลต์ เข้าสู่แนวรั้ว แม้ว่าการกระทำของผู้ตายทั้งสามถือว่าเป็นการประทุษร้ายอันเป็นละเมิดต่อกฎหมายและต่อทรัพย์สินของจําเลย ซึ่งจําเลยมีสิทธิที่จะป้องกันทรัพย์สินของตนได้ก็ตาม แต่พฤติการณ์ที่จําเลยปล่อยกระแสไฟฟ้าขนาดแรงดัน สูงถึง 220 โวลต์ ไปตามเส้นลวดของกลางที่ขึงเป็นแนวรั้วโดยไม่มีฉนวนหุ้มนั้น แม้โดยสภาพจะไม่ทำให้ผู้สัมผัสเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าอยู่ถึงแก่ความตายในทันที แต่ก็สามารถทำให้ได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กายหรือสาหัสได้ และหากถูกกระแสไฟฟ้าช็อตเป็นเวลานานย่อมเป็นอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ อีกทั้งบริเวณหลังบ้านเกิดเหตุที่ผู้ตายทั้งสามนอนตายอยู่นั้น มีกิ่งต้นพืชกระท่อมถูกตัดลงมาบางส่วนเท่านั้น ไม่ปรากฏว่ามีทรัพย์สินอื่นของจําเลยอยู่ในบริเวณดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าผู้ตายทั้งสามมีจุดมุ่งหมายที่จะเข้าไปในอาณาเขตบ้านของจําเลยเพื่อลักเอาใบพืชกระท่อมของจําเลยไปเท่านั้น ทรัพย์ที่จําเลยมีสิทธิกระทำการป้องกันเป็นเพียงต้นพืชกระท่อม ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ไม่ใช่ทรัพย์ที่จําเป็นจะต้องดูแลป้องกันถึงขนาดสร้างแนวรั้วไฟฟ้ามีแรงดันสูงขนาด 220 โวลต์ เช่นนี้ การกระทำดังกล่าวจึงเกินสมควรแก่เหตุ 

        หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจําเป็น หรือเกินกว่ากรณีแห่งการจําต้องกระทำเพื่อป้องกันตาม ป.อ. มาตรา 69 จําเลยยังคงมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อ. มาตรา 290 วรรคแรก ประกอบมาตรา 69 ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น เพียงใดก็ได้
 
        มาตรา 290 วรรคแรก ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
 
        มาตรา 69 ในกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา 67 และมาตรา 68 นั้น ถ้าผู้กระทำได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็น หรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความตกใจ หรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้
 
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954
หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @closelawyercmi
หรือ คลิก https://lin.ee/Zu2JmNU
ใช้ลวดขึงแล้วปล่อยกระไฟทำเป็นแนวรั้ว เพื่อป้องกันคนมาลักขโมยใบกระท่อม หากมีคนร้ายถูกกระแสไฟช็อตจนถึงแก่ความตาย เจ้าของบ้านมีความผิดข้อหาอะไร
Scroll to top
error: Content is protected !!