closelawyer@gmail.com       080-919-3691

การหมิ่นประมาทในทางแพ่ง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้บัญญัติเหตุละเมิดอันเนื่องมาจากการหมิ่นประมาทด้วย คือ มาตรา 423 “ผู้ใดกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงเป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้ หรือทางเจริญของเขาโดยประการอื่นก็ดี ท่านว่าผู้นั้นจะต้องใช้สินไหมทดแทนให้แก่เขาเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดแต่การนั้น แม้ทั้งเมื่อตนมิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริง แต่หากควรจะรู้ได้
ผู้ใดส่งข่าวสารอันตนมิได้รู้ว่าเป็นความไม่จริง หากว่าตนเองหรือผู้รับข่าวสารนั้นมีทางได้เสียโดยชอบในการนั้นด้วยแล้ว ท่านว่าเพียงที่ส่งข่าวสารเช่นนั้นหาทำให้ผู้นั้นต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนไม่ “
 
จากบทบัญญัติดังกล่าวจึงแยกพิจารณาได้ว่า การที่จะกระทำหมิ่นประมาททางแพ่งนั้น ต้อง
1) มีการกล่าวหรือไขข่าว ที่ไม่เป็นความจริง
2) ให้มีการแพร่หลาย
3) ผลทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้ หรือทางเจริญของเขา
การกล่าวหรือไขข่าว คือ การพูด การกระทำใดๆ ให้ผู้อื่นทราบในข้อมูลนั้น และข้อมูลเช่นว่านั้นต้องไม่เป็นความจริง หมายความว่า หากมีการพูดหรือเผยแพร่ความจริง ก็ไม่เป็นละเมิด นักวิชาการบางท่านเรียกว่า “หมิ่นประมาทในทางแพ่ง” เพราะเป็นเรื่องละเมิดต่อชื่อเสียงของเขา ทำให้เขาเสียหาย ทำให้เกียรติของเขาน้อยลง
การกล่าวหรือไขข่าว ข้อความจริง ไม่เป็นเรื่องละเมิด เพราะถ้าเขากล่าวเรื่องจริง ผู้ถูกกล่าวถึงไม่เสียหาย (ต่างไปจากความรับผิดทางอาญา เพราะแม้เรื่องที่กล่าวไปเป็นเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวและไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะก็พูดไม่ได้ หากพูดไป เป็นความผิดทางอาญา)
แต่หากผลของการกระทำ คือการพูดหรือเผยแพร่ข้อความนั้น ทำให้เขาต้องเสียหาย กรณีนี้อาจเป็นความรับผิดทางละเมิดได้
 
องค์ประกอบในการกระทำผิดในส่วนแพ่ง
 
1) การกล่าวหรือไขข่าวที่ไม่เป็นความจริง
การกล่าวเป็นการพูด การพูดนี้ต้องเกิดจากความตั้งใจของผู้พูดอาจเป็นการพูดตามคำอ่านหนังสือ หรือพูดจากความทรงจำ หรือจำคำพูดคนอื่นมาแล้วพูดต่อ
 
ส่วนการ “ไขข่าว” หมายถึงการแสดงหรือการถ่ายทอดข้อความนั้นไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม ที่ทำให้ผู้อื่นเข้าใจในความหมายของการแสดงนั้น เช่น การทำท่าเลียนแบบคนใบ้ในลักษณะที่ผู้อื่นทำไม่ดี ก็เป็นการไขข่าวแล้วเกิดจากการกระทำที่ตั้งใจให้เขาเสียหาย เพียงแสดงเลียนแบบในท่าทางตลกแต่ผลทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ก็เป็นการกล่าวหรือไขข่าวที่ผิดกฎหมายแล้ว
ข้อสำคัญเรื่องนี้ คือ ข้อมูลเช่นว่านั้นต้องเป็นเรื่องที่ไม่จริงเท่านั้น จึงจะผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 423 ได้ การกล่าวหรือการไขข่าวต้องเป็นการยืนยันในข้อความนั้น และต้องหมายถึงผู้ที่ถูกกล่าวถึงด้วย ส่วนผู้กล่าวหรือไขข่าวจะตั้งใจให้ผู้ฟังทราบว่าผู้ถูกกล่าวถึงเป็นใคร ไม่เป็นประเด็นสำคัญ ขอเพียงผู้ฟังทราบว่าพูดถึงใครก็พอแล้ว ผู้กล่าวหรือไขข่าวก็ผิดแล้ว ซึ่งคำกล่าวหรือไขข่าวนี้ ต้องเป็นการยืนยันในข้อเท็จจริงและต้องเป็นการเจาะจงถึงผู้ถูกพูดถึงหรือผู้เสียหาย ที่เข้าใจว่าหมายถึงใคร
 
บางเรื่องไม่ถือเป็นการยืนยันในข้อมูล กฎหมายก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายนี้ เช่น คำพูดที่เลื่อนลอย คำกล่าวไม่อาจเชื่อถือได้ เช่น คำด่าคำขู่ เป็นต้น’
 
2) ให้มีการแพร่หลาย
การแพร่หลายไม่จำต้องกระจายไปในหมู่ประชาชนจำนวนมาก เพียงแต่รู้ไปถึงบุคคลที่สามได้เป็นความผิดแล้ว ดังนั้น แพร่หลายจึงหมายถึงการที่มีบุคคลที่สามล่วงรู้ในข้อมูลนั้น
ความผิดในลักษณะนี้ ต้องมีตัวละครสามคน คือ ผู้กล่าวหรือไขข้อมูล ผู้ฟังหรือผู้ล่วงรู้ และผู้ที่ถูกกล่าวถึง แต่บุคคลต่อไปนี้ ไม่ถือเป็นบุคคลที่สาม คือ ผู้ร่วมกระทำละเมิด สามีภริยา (ที่ชอบด้วยกฎหมาย) ผู้แอบดูหรือแอบฟัง ที่ผู้กล่าวหรือไขข่าวไม่ทราบ
 
3) ผลทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคล อื่นก็ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้ หรือทางเจริญของเขา
ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของบุคคลอื่นก็ดี หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้ หรือทางเจริญของเขา วัดจากความรู้สึกของคนในสังคม
 
ปรึกษากฎหมายโทร
ได้ที่ 080-9193691 ,☎️ 02-0749954
หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @cly.cmi
หรือ คลิก https://lin.ee/w7Ikc1z
สาขาขอนแก่น โทร 095-9567735 แอดไลน์ @cly.kkn
หรือ คลิก https://lin.ee/vbQlVcap
💻www.closelawyer.co.th💻
การหมิ่นประมาทในทางแพ่ง
Scroll to top
error: Content is protected !!