ของหมั้น vs สินสอด ต่างกันอย่างไร? สรุปข้อกฎหมายที่ควรรู้ก่อนแต่งงาน
ในพิธีแต่งงานแบบไทย คำว่า “ของหมั้น” และ “สินสอด” เป็นคำที่ได้ยินบ่อยครั้ง หลายคนอาจคิดว่าเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ในทางกฎหมายแล้ว ทั้งสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของความหมาย ผู้รับ และผลทางกฎหมายเมื่อมีเหตุให้ต้องยกเลิกงานแต่ง มาทำความเข้าใจให้ถูกต้องกันดีกว่า เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในอนาคต
ของหมั้น: หลักฐานแห่งคำสัญญาว่าจะแต่งงาน 💍
ของหมั้น คือ ทรัพย์สินที่ฝ่ายชายมอบให้แก่ “ฝ่ายหญิง” โดยตรง เพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับหญิงคนนั้นในอนาคต เมื่อฝ่ายหญิงรับของหมั้นแล้ว ของหมั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของฝ่ายหญิงทันที
ลักษณะสำคัญของของหมั้น
- ผู้ให้: ฝ่ายชาย
- ผู้รับ: ฝ่ายหญิง (คู่หมั้น)
- วัตถุประสงค์: เพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสด้วย
- เวลาที่ให้: ต้องให้ในขณะทำสัญญาหมั้น หรือก่อนการสมรส
ข้อควรรู้และกรณีศึกษาเกี่ยวกับ “ของหมั้น”
- ต้องเป็นการโอนกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์: หากของหมั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน ฝ่ายชายต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ฝ่ายหญิงอย่างถูกต้อง การนำโฉนดใส่พานมามอบให้เฉยๆ ยังไม่ถือว่าเป็นของหมั้นที่สมบูรณ์ (อ้างอิง ฎีกา 1901/2559)
- เจตนาต้องเพื่อการสมรส: หากฝ่ายชายมอบทรัพย์สินให้ด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการแต่งงาน แม้ทรัพย์นั้นจะตกเป็นของฝ่ายหญิงไปแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นของหมั้น และหากต่อมาฝ่ายหญิงผิดสัญญา ฝ่ายชายก็เรียกคืนไม่ได้ (เว้นแต่เป็นเหตุเนรคุณ)
- สัญญาหมั้นเกิดขึ้นแล้ว แม้ไม่ได้จัดงาน: หากมีการหมั้นหมายกันตามกฎหมายแล้ว ต่อมาฝ่ายชายเป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมแต่งงานด้วย ฝ่ายหญิงไม่จำเป็นต้องคืนของหมั้น (อ้างอิง ฎีกา 8554/2549)
- ของหมั้นที่ยืมมา: หากฝ่ายชายยืมทรัพย์สินคนอื่นมาหมั้นโดยที่ฝ่ายหญิงไม่รู้เรื่อง ของหมั้นนั้นจะตกเป็นของฝ่ายหญิงโดยสมบูรณ์ แต่ถ้าเจ้าของทรัพย์สินไม่ยินยอมให้นำมาหมั้น เจ้าของมีสิทธิติดตามเอาคืนได้
สินสอด คือ ทรัพย์สินตอบแทนที่หญิงยอมสมรส 🙏
สินสอด คือ ทรัพย์สินที่ฝ่ายชายมอบให้แก่ “บิดา มารดา หรือผู้ปกครองของฝ่ายหญิง” เพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกเขายินยอมให้ฝ่ายหญิงสมรสด้วย สินสอดจึงไม่ใช่ของที่ให้แก่คู่หมั้นโดยตรง
ลักษณะสำคัญของสินสอด
- ผู้ให้: ฝ่ายชาย
- ผู้รับ: บิดา มารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม หรือผู้ปกครองของฝ่ายหญิง
- วัตถุประสงค์: เพื่อตอบแทนการที่หญิงยอมสมรส
- เวลาที่ให้: สามารถตกลงให้ในวันทำสัญญาหมั้น หรือจะส่งมอบในอนาคต แม้กระทั่งหลังสมรสแล้วก็ได้ (อาจทำเป็นสัญญากู้ยืมก็ได้)
ข้อควรรู้และกรณีศึกษาเกี่ยวกับ “สินสอด”
- ให้หลังแต่งงานก็ได้: กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องให้สินสอดก่อนหรือในวันแต่งงาน สามารถตกลงจ่ายกันในภายหลังได้ (อ้างอิง ฎีกา 878/2518)
- ให้ผิดคน ไม่ใช่สินสอด: หากฝ่ายชายยกทรัพย์สินให้ฝ่ายหญิงโดยตรง โดยระบุว่าเป็นสินสอด จะไม่ถือว่าเป็นสินสอดตามกฎหมาย แต่ถือเป็นการให้โดยเสน่หาเพื่อตอบแทนที่หญิงยอมสมรสด้วย ซึ่งฝ่ายชายจะเรียกคืนไม่ได้ (อ้างอิง ฎีกา 3442/2526)
- ใครผิดสัญญา? เรื่องสำคัญของการเรียกคืน:
- ถ้าฝ่ายชายผิดสัญญา หรือการแต่งงานไม่ได้เกิดขึ้นจากเหตุที่ฝ่ายหญิงไม่ต้องรับผิดชอบ ฝ่ายชายจะเรียกสินสอดคืน ไม่ได้
- ถ้าฝ่ายหญิงผิดสัญญา หรือมีเหตุสำคัญอันเกิดจากฝ่ายหญิงที่ทำให้ฝ่ายชายไม่สมควรแต่งงานด้วย ฝ่ายชายสามารถเรียกสินสอดคืน ได้
สรุป
โดยสรุปแล้ว ของหมั้น คือการให้ทรัพย์สินแก่ “ว่าที่เจ้าสาว” เพื่อเป็นเครื่องยืนยันคำสัญญา ส่วน สินสอด คือการให้ทรัพย์สินแก่ “พ่อแม่ฝ่ายหญิง” เพื่อเป็นการขอบคุณที่ยกลูกสาวให้ การเข้าใจความแตกต่างทางกฎหมายของทั้งสองสิ่งนี้จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายวางแผนและทำข้อตกลงกันได้อย่างชัดเจน ลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาทหากการสมรสไม่ได้เกิดขึ้นตามที่ตั้งใจไว้
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954
หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @closelawyercmi
หรือ คลิก https://lin.ee/Zu2JmNU
www.closelawyer.co.th
#ทนายใกล้ตัว