คู่สมรสถูกศาลพิพากษาจำคุก เป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้
การที่คู่สมรสถูกศาลพิพากษาจำคุกนั้น คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งสามารถอ้างเหตุดังกล่าวมาฟ้องหย่าได้ ภายใต้เงื่อนไขตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (4/1) โดยมีเงื่อนไขคือ
• สามีหรือภริยาต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
• โทษจำคุกเกิน 1 ปี
• คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง(ฝ่ายที่อ้างเหตุมาฟ้องหย่า) ต้องไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในความผิดด้วย
• การเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนจนเกินสมควรเพราะการถูกจำคุก (ไม่ใช่พ้นโทษจำคุกแล้วจึงนำคดีมาฟ้อง)
อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ถูกดำเนินคดีอาญาและศาลพิพากษาว่ากระทำความผิด แต่คดียังไม่ถึงที่สุด หรือศาลพิพากษาจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือกรณีฟ้องหลังจากคู่สมรสพ้นโทษจำคุกมาแล้ว แม้จะไม่เข้าเหตุหย่าตามมาตรา1516(4/1) แต่อาจถือเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 1516(2) ซึ่งเป็นเหตุฟ้องหย่าในอีกประการหนึ่งได้
อ้างอิง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11702/2555
เหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (4/1) ที่ว่า “สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้” ต้องเป็นกรณีที่โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินสมควรในระหว่างระยะเวลาที่จำเลยต้องโทษจำคุกและได้ถูกจำคุกเกิน 1 ปี หากจำเลยพ้นโทษจำคุกแล้ว ถือไม่ได้ว่าโจทก์จะได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินสมควรเพราะเหตุจำเลยต้องถูกจำคุกอีกต่อไป เมื่อคดีดังกล่าวจำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและต้องโทษจำคุกเป็นเวลาเกิน 1 ปีมาแล้ว โดยความผิดดังกล่าวโจทก์มิได้มีส่วนก่อให้เกิดหรือยินยอมรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด ดังนั้นโจทก์ย่อมฟ้องจำเลยด้วยเหตุหย่าตามมาตรา 1516 (4/1) ได้ แต่โจทก์ฟ้องคดีหลังจากที่จำเลยถูกจำคุกเกิน 1 ปี และพ้นโทษมาแล้วเป็นเวลาถึง 5 ปี ดังนั้นความเสียหายหรือเดือดร้อนของโจทก์จึงยุติลงแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องหย่าจำเลยโดยอาศัยเหตุตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (4/1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2547
ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 ในข้อหาเป็นเจ้าของผู้ดูแลและผู้จัดการสถานการค้าประเวณีและข้อหาขายหรือให้บริการเทปและวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขณะนั้นโจทก์เป็นปลัดอำเภอในจังหวัดสงขลา จำเลยที่ 1 เป็นภริยาโจทก์ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่จำเลยที่ 1 กลับกระทำความผิดในข้อหาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและเสื่อมเสียศีลธรรมอันดีของประชาชน จนศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 การกระทำของจำเลยที่ 1 ถือว่าทำให้โจทก์ซึ่งเป็นสามีได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง กับได้รับความดูถูกเกลียดชัง นับเป็นเหตุฟ้องหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (2) (ก) (ข)
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954
หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @cly.cmi
หรือ คลิก https://lin.ee/hCbTQl6
สาขาขอนแก่น โทร 095-9567735 แอดไลน์ @cly.kkn
หรือ คลิก https://lin.ee/U10ElNk
คู่สมรสถูกศาลพิพากษาจำคุก เป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้