แม้น้ำกรดจะไม่ใช่อาวุธโดยสภาพแต่ก็เป็นสารเคมีชนิดกรดเกลือ ซึ่งมีคุณสมบัติกัดกรอนชนิดรุนแรงที่ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้

        ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า น้ำกรดที่จำเลยที่ 1 นำมาสาดใส่โจทก์ นอกจากจะมีความเข้มข้นสูงแล้ว ยังมีปริมาณมากทำให้โจทก์มีบาดแผลถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย

 

        จำเลยที่ 1 ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าการกระทำของตนกับพวกเป็นเหตุให้โจทก์ถึงแก่ความตายได้

 

          การที่จำเลยที่ 1 กับพวกเตรียมน้ำกรดมาเพื่อสาดใส่โจทก์ จึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

 

         จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐาน  พยายามฆ่าโจทก์โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (4) ประกอบมาตรา 80 ซึ่งตามมาตรา 289(4) มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต แต่ตามมาตรา 80 ให้ระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้

 

        ข้อสังเกต ถ้ามีความเข้มข้นสูงแล้วยังมีปริมาณมาก ทำให้ผู้สียหายมีบาดแผลถึง 20% ของร่างกาย ถือว่ามีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2894(4)

 

         คำพิพากษาฎีกาที่ 9711/2557

        น้ำกรดที่จำเลยที่ 1 นำมาสาดใส่โจทก์ร่วมทั้งสาม นอกจากจะมีความเข้มข้นสูงแล้ว ยังมีปริมาณมากทำให้โจทก์ร่วมที่ 1 มีบาดแผลถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของร่างกายจำเลยที่ 1 ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าการกระทำของตนกับพวกเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมทั้งสามถึงแก่ความตายได้การที่จำเลยที่ 1 กับพวกเตรียมน้ำกรดมาเพื่อสาดใส่โจทก์ร่วมทั้งสาม จึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าโจทก์ร่วมทั้งสามโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (4) ประกอบมาตรา 80

 

        มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

        มาตรา 289 ผู้ใด(4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต้องระวางโทษประหารชีวิต

 

ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954

หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer

สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @closelawyercmi

หรือ คลิก https://lin.ee/Zu2JmNU