closelawyer@gmail.com       080-919-3691

หลายท่านยังไม่ทราบว่าหากอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านที่มีอยู่ก่อนสมรส อสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมรดก หรือ อสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาระหว่างสมรสแต่โดยเงินส่วนตัวของตนเอง ถือเป็นสินส่วนตัวแม้บางอย่างจะได้มาระหว่างสมรสก็ไม่ถือว่าเป็นสินสมรส แต่ปัญหามีอยู่ว่าหากสามีหรือภรรยาคู่ใด ที่กำลังจะหย่ากันแต่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ยินดี ที่จะอยู่ร่วมกันแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยินยอมออกไปจากทรัพย์สิน หากปรากฎว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ย่อมสามารถฟ้องขับไล่ให้สามีหรือภรรคนดังกล่าวออกไปเสียจากที่ดินก็ได้

อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 145/2563 โจทก์ใช้เงินสินส่วนตัวของโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเล็กๆ มีแต่หลังคาแต่ไม่มีฝาบ้านมาในระหว่างสมรส และใช้เงินสินส่วนตัวของโจทก์ในการก่อสร้างบ้าน โรงจอดรถ คอกวัว และศาลาริมน้ำในที่ดินพิพาทของโจทก์ แม้เป็นการก่อสร้างในระหว่างที่โจทก์กับจำเลยที่ 1 เป็นสามีภริยากันก็จะถือว่าบ้านพิพาทเป็นทรัพย์สินที่โจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้มาระหว่างสมรสหาได้ไม่ บ้านพิพาทย่อมเป็นสินส่วนตัวของโจทก์ตาม  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1472 วรรคหนึ่ง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากบ้านพิพาทและเรียกค่าเสียหายได้

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1472  สินส่วนตัวนั้น ถ้าได้แลกเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินอื่นก็ดี ซื้อทรัพย์สินอื่นมาก็ดี หรือขายได้เป็นเงินมาก็ดี ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มานั้นเป็นสินส่วนตัว สินส่วนตัวที่ถูกทำลายไปทั้งหมดหรือแต่บางส่วน แต่ได้ทรัพย์สินอื่นหรือเงินมาทดแทน ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มานั้นเป็นสินส่วนตัว

ปรึกษากฎหมายโทร📞 080-9193691,☎️ 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 ไลน์ @closelawyercmi

สามีหรือภรรยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ได้ใช้เงินส่วนตัวสร้างบ้านในระหว่างที่จดทะเบียนสมรสกัน ต่อมาภายหลังไม่ประสงค์จะให้คู่สมรสของตนอยู่ในบ้านดังกล่าว ย่อมสามารถฟ้องขับไล่ให้ออกไปจากบ้านหลังนั้นได้
Scroll to top
error: Content is protected !!