หลาย ๆ ท่านสงสัยว่า ในเมื่อสามีหรือภริยาชาวต่างชาติ ได้จดทะเบียนสมรสกันที่ประเทศไทยแล้ว ต่อมาได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยใส่ชื่อคู่สมรสที่เป็นคนสัญชาติไทยแต่เพียงผู้เดียว ต่อมาหากคู่สมรสที่เป็นคนสัญชาติไทยได้เสียชีวิตไปก่อน คู่สมรสชาวต่างชาติจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง

ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1474(1) เมื่อสินสมรสเป็นที่ดินและบ้าน จำต้องแบ่งกันระหว่างคู่สมรสเสียก่อน จึงจะทราบว่าทรัพย์ใดบ้างเป็นทรัพย์มรดก แต่เมื่อตามกฎหมายประเทศไทยคู่สมรสที่เป็นชาวต่างชาติไม่อาจ ครอบครองที่ดินในประเทศไทยได้ แต่สามารถครอบครองตัวบ้านได้ กฎหมายไม่ต้องห้าม แต่ตัวที่ดินในเมื่อชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองได้ ก็จำต้องขายแล้วนำเงินมาแบ่งให้แก่เจ้าของเท่า ๆ กันตามส่วน และแน่นอนผู้ซื้อย่อมต้องซื้อที่ดินพร้อมบ้านแน่นอน จึงต้องประกาศขายที่ดินพร้อมบ้านดังกล่าวเสีย เพื่อเป็นทางออก สามีชาวต่างชาติคู่สมรสก็ได้ไปซึ่งเงินส่วนต่าง ตามส่วนของตนเท่านั้น

อ้างถึงคำพิพากษาฎีกาที่ 14040/2557 โจทก์กับจำเลยจดทะเบียนสมรสกันและซื้อที่ดินพร้อมบ้านภายหลังจดทะเบียนสมรส แม้ที่ดินและบ้านระบุชื่อโจทก์เพียงฝ่ายเดียวแต่เป็นทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส จึงเป็นทรัพย์สินที่โจทก์และจำเลยได้มาระหว่างสมรสตาม ป.พ.พ. มาตรา 1474 (1) ซึ่งโจทก์และจำเลยต้องนำมาแบ่งกันเมื่อขาดจากการสมรสโดยได้ส่วนเท่ากันตาม ป.พ.พ. มาตรา 1533

การที่โจทก์ซื้อที่ดินและบ้านพิพาทระหว่างสมรสกับจำเลย แม้ส่วนของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวนั้น การทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทจะฝ่าฝืน ป.ที่ดิน มาตรา 86 แต่การได้ที่ดินมามิใช่จะไม่มีผลใด ๆ เสียเลยเพราะจำเลยยังมีสิทธิได้รับผล ตาม ป.ที่ดิน มาตรา 94 ที่บัญญัติให้คนต่างด้าวจัดการจำหน่ายที่ดินดังกล่าวนั้นได้และการบังคับให้จำหน่ายดังกล่าวหมายความเฉพาะกับที่ดินพิพาทเท่านั้น ไม่รวมบ้านซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างพิพาทด้วยเพราะคนต่างด้าวไม่ต้องห้ามมิให้ถือกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างแต่ประการใด

ปรึกษากฎหมายโทร📞 080-9193691,☎️ 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 ไลน์ @closelawyercmi