มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
เหตุที่คดีนี้จำเลยไม่มีความรับผิดทางอาญา ก็สืบเนื่องมาจากเจตนาทุจริตของจำเลยเกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีการตกลงซื้อขายยางรถยนต์จนเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยเพียงสบโอกาสขับรถออกไปโดยอาศัยจังหวะหลังจากที่ลูกจ้างของผู้เสียหายนำรถของจำเลยที่นำมาเปลี่ยนยางเสร็จแล้วจอดนอกอู่ ซึ่งในขณะนั้นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดยางรถยนต์ได้เกิดขึ้นโดยสมบูรณ์แล้ว กล่าวคือ กรรมสิทธิ์ในยางรถยนต์ได้โอนจากผู้เสียหายไปยังจำเลยผู้ซื้อแล้ว การกระทำของจำเลยในคดีนี้จึงไม่ครบองค์ประกอบภายนอกในความผิดฐานลักทรัพย์ในส่วนของ “ผู้อื่น” การชำระราคาค่ายางจำนวน 8,000 บาท จึงเป็นเพียงมูลหนี้ชำระราคาที่ผู้เสียหายมีสิทธิเรียกร้องต่อจำเลยในทางแพ่งภายในกำหนดอายุความต่อไป
คำพิพากษาฎีกาที่ 3366/2561
จำเลยขับรถกระบะไปเปลี่ยนยางรถที่ร้านผู้เสียหายโดย บ.ญาติจำเลยไปด้วย ผู้เสียหายคิดราคายางสี่เส้นเป็นเงิน 8,000 บาท จำเลยตกลงเปลี่ยนยางทั้งสี่เส้น ว. ลูกจ้างประจำร้านเป็นผู้เปลี่ยนให้ โดยใส่ยางรถชุดเก่าไว้ในกระบะรถ เมื่อเปลี่ยนยางรถเสร็จทั้งสี่เส้นแล้ว ว. ถอยรถกระบะไปจอดที่บริเวณหน้าร้านโดยติดเครื่องยนต์ไว้ จากนั้นประมาณ 3 นาที จำเลยขับรถกระบะดังกล่าวออกจากร้านไปโดยไม่ชำระราคา ขณะตกลงซื้อขายยางรถระหว่างจำเลยกับผู้เสียหาย จำเลยไม่มีเจตนาที่จะใช้กลอุบายหลอกลวงให้ผู้เสียหายส่งมอบยางรถทั้งสี่เส้นโดยไม่คิดจะชำระราคามาแต่ต้น ดังนั้น กรรมสิทธิ์ในยางรถทั้งสี่เส้นย่อมโอนไปยังจำเลยซึ่งเป็นผู้ซื้อ ตั้งแต่เมื่อได้ทำสัญญาซื้อขายและกำหนดเป็นทรัพย์เฉพาะสิ่งแล้วตาม ป.พ.พ.มาตรา 458 และมาตรา 460 วรรคหนึ่ง แม้จำเลยยังมิได้ชำระราคาแก่ผู้เสียหาย ก็เป็นมูลคดีผิดสัญญาในทางแพ่งเท่านั้น หามีมูลความผิดทางอาญาฐานลักทรัพย์ไม่
ปรึกษากฎหมายโทร📞 080-9193691,☎️ 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 ไลน์ @closelawyercmi