การที่จะถือว่าบุคคลใดสร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริต หรือสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตนั้นจะต้องดูในขณะที่ก่อสร้างว่าผู้ก่อสร้างรู้หรือไม่ว่าที่ดินตรงนั้นเป็นของผู้อื่น ถ้ารู้ก็ถือว่าก่อสร้างโดยไม่สุจริต แต่ถ้าในขณะที่ก่อสร้างไม่รู้ว่าที่ดินตรงนั้นเป็นของบุคคลอื่นแต่เข้าใจว่าเป็นที่ดินของตนเองจึงสร้างโรงเรือนลงไป ต่อมาภายหลังจึงรู้ความจริงก็ถือว่าเป็นการก่อสร้างโรงเรือนโดยสุจริตหรือสร้างโรงเรือนรุกล้ำโดยสุจริต
คำพิพากษาฎีกาที่ 10041/2563
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310 วรรคหนึ่ง และมาตรา 1312 วรรคหนึ่ง วางหลักว่า บุคคลใดสร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริต… และบุคคลใดสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริต… นั้น การที่จะถือว่าบุคคลใดสร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริต หรือสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตนั้นจะต้องดูในขณะที่ก่อสร้างว่าผู้ก่อสร้างรู้หรือไม่ว่าที่ดินตรงนั้นเป็นของผู้อื่น ถ้ารู้ก็ถือว่าก่อสร้างโดยไม่สุจริต แต่ถ้าในขณะที่ก่อสร้างไม่รู้ว่าที่ดินตรงนั้นเป็นของบุคคลอื่นแต่เข้าใจว่าเป็นที่ดินของตนเองจึงสร้างโรงเรือนลงไป ต่อมาภายหลังจึงรู้ความจริงก็ถือว่าเป็นการก่อสร้างโรงเรือนโดยสุจริตหรือสร้างโรงเรือนรุกล้ำโดยสุจริต
เมื่อจำเลยสร้างบ้านในที่ดินพิพาทโดยทราบอยู่แล้วว่าเป็นที่ดินของโจทก์ แต่จำเลยยังก่อสร้างต่อไปจนแล้วเสร็จทั้ง ๆ ที่โจทก์แจ้งให้ทราบแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต จำเลยจึงไม่อาจอ้างเอาประโยชน์จากบทกฎหมายดังกล่าวได้
มาตรา 1310 บุคคลใดสร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินเป็นเจ้าของโรงเรือนนั้น ๆ แต่ต้องใช้ค่าแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นเพราะสร้างโรงเรือนนั้นให้แก่ผู้สร้าง
แต่ถ้าเจ้าของที่ดินสามารถแสดงได้ว่า มิได้มีความประมาทเลินเล่อ จะบอกปัดไม่ยอมรับโรงเรือนนั้นและเรียกให้ผู้สร้างรื้อถอนไป และทำที่ดินให้เป็นตามเดิมก็ได้ เว้นไว้แต่ถ้าการนี้จะทำไม่ได้โดยใช้เงินพอสมควรไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินจะเรียกให้ผู้สร้างซื้อที่ดินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนตามราคาตลาดก็ได้
มาตรา 1312 บุคคลใดสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นเป็นเจ้าของโรงเรือนที่สร้างขึ้น แต่ต้องเสียเงินให้แก่เจ้าของที่ดินเป็นค่าใช้ที่ดินนั้น และจดทะเบียนสิทธิเป็นภาระจำยอม ต่อภายหลังถ้าโรงเรือนนั้นสลายไปทั้งหมด เจ้าของที่ดินจะเรียกให้เพิกถอนการจดทะเบียนเสียก็ได้
ถ้าบุคคลผู้สร้างโรงเรือนนั้นกระทำการโดยไม่สุจริต ท่านว่าเจ้าของที่ดินจะเรียกให้ผู้สร้างรื้อถอนไป และทำที่ดินให้เป็นตามเดิมโดยผู้สร้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายก็ได้
ปรึกษากฎหมายโทร📞 080-9193691,☎️ 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 ไลน์ @closelawyercmi